เมนู

พระอนาคามีผู้บรรลุอรหัตผล ด้วยจิตที่เป็นอสังขารเป็นอสัปปโยค
พระอนาคามีนี้ชื่อว่า อสังขารปรินิพพายี.
พระอนาคามีใดบังเกิดในสุทธาวาสชั้นอวิหา ซึ่งมีอายุ 1,000 กัป
ผ่านพ้นไปได้ 100 กัปแรก ก็บรรลุอรหัตผล พระอนาคามีนี้ชื่อว่า อุปหัจจ
ปรินิพพายี
.
แม้ในสุทธาวาสชั้นอตัปปาเป็นต้น ก็มีนัยนี้แล.
บทว่า อนฺตราปรินพฺพายี ความว่า พระอนาคามีใด อายุยังไม่
ทันเลยครึ่งไปก็ปรินิพพาน พระอนาคามีนั้นมี 3 ประเภท คือ อันดับแรก
พระอนาคามีท่านหนึ่ง บังเกิดในสุทธาวาสชั้นอวิหาซึ่งมีอายุ 1,000 กัปเเล้ว
ก็บรรลุอรหัตผลในวันที่บังเกิดนั้นเอง หากว่ามิได้บรรลุอรหัตผลในวันที่ตน
บังเกิด แต่ว่าได้บรรลุในที่สุด 100 กัปแรก พระอนาคามีนี้ชื่อว่า อันตรา
ปรินิพพายี
ประเภทที่ 1.
พระอนาคามีอีกท่านหนึ่ง ไม่สามารถบรรลุอรหัตผลได้อย่างนั้น
(แต่ว่า) ได้บรรลุในที่สุด 200 กัป พระอนาคามีนี้ชื่อว่า อันตราปรินิพพายี
ประเภทที่ 2.
พระอนาคามีอีกท่านหนึ่ง แม้ในที่สุด 200 กัป อย่างนั้นก็ไม่สามารถ
(บรรลุอรหัตผล) ได้ (แต่ว่า) ได้บรรลุในที่สุด 400 กัป พระอนาคามีนี้
ชื่อว่า อันตราปรินิพพายี ประเภทที่ 3. บทที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วแล.

พระโสดาบัน 24 เป็นต้น


อนึ่ง นักศึกษาพึงดำรงอยู่ในฐานะนี้ แล้วกล่าวถึงพระโสดาบัน 24
จำพวก พระสกทาคามี 12 จำพวก พระอนาคามี 48 จำพวก และพระ-
อรหันต์ 12 จำพวก. อธิบายว่า ในศาสนานี้ มีธุระ 2 คือ สัทธาธุระ 1
ปัญญาธุระ 1
มีปฏิปทา 4 มีทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา เป็นต้น.

ในสัทธาธุระ กับปัญญาธุระนั้น พระโสดาบันบุคคลท่านหนึ่ง
ยึดมั่นด้วยสัทธาธุระจนได้บรรสุโสดาปัตติผล บังเกิดในภพหนึ่ง แล้วทำที่สุด
ทุกข์ได้ พระโสดาบันบุคคลท่านนี้จัดเป็นเอกพีชีประเภทหนึ่ง พระโสดาบัน
บุคคลประเภทเอกพีชีนั้น มี 4 ประเภทด้วยอำนาจปฏิปทา. พระโสดาบันบุคคล
ประเภทเอกพีชีผู้ยึดมั่น ด้วยสัทธาธุระนี้เป็นฉันใด แม้ท่านที่ยึดมั่นด้วย
ปัญญาธุระก็เป็นฉันนั้น รวมเป็นว่าพระโสดาบันบุคคลประเภทเอกพีชีมี 8
ประเภท. พระโสดาบันประเภท โกลํโกละ และพระโสดาบันประเภท
สัตตักขัตตุปรมะ ก็เหมือนกัน คือมีประเภทละ 8 รวมเป็นว่า พระโสดาบัน
เหล่านี้มี 24 ประเภท.
ในวิโมกข์ทั้ง 3 พระสกทาคามีบุคคลผู้บรรลุภูมิ ของพระสกทาคามี
ก็มี 4 ด้วยอำนาจปฏิปทา 4 อนึ่ง พระสกทาคามีบุคคลผู้บรรลุภูมิของพระ
สกทาคามี ด้วยอนิมิตวิโมกข์ก็มี 4 ผู้บรรลุภูมิของพระสกทาคามี ด้วย
อัปปณิหิตวิโมกข์ก็มี 4 รวมเป็นว่า พระสกทาคามีเหล่านี้ มี 12 ประเภท.
ส่วนในพรหมโลกชั้นอวิหา พระอนาคามีมีอยู่ 5 คือ พระอนาคามี
ประเภทอันตราปรินิพพายีมี 3 พระอนาคามีประเภทอุปหัจจปรินิพพายี
มี 1 พระอนาคามีประเภทอุทธังโสโตอกนิฏฐคามีมี 1. พระอนาคามี
เหล่านั้นแยกเป็น 10 คือ พระอนาคามีประเภท อสังขารปรินิพพายีมี 5
พระอนาคามีประเภทสสังขารปรินิพพายีอีก 5. ในสุทธาวาสชั้นอตัปปา
เป็นต้น ก็มีจำนวนเท่ากัน แต่ในสุทธาวาสชั้นอกนิฏฐะ พระอนาคามีประเภท
อุทธังโสโตไม่มี. เพราะฉะนั้น ในสุทธาวาส ชั้นอกนิฏฐะนั้น จึงมีพระ
อนาคามี 8 คือ พระอนาคามีประเภท สสังขารปรินิพพายีมี 4 พระ-
อนาคามีประเภทอสังขารปรินิพพายีมี 4 (เหมือนกัน ) รวมเป็นว่า

พระอนาคามีเหลานี้มีทั้งหมด 48. แม้พระอรหันต์ ก็พึงทราบว่า มี 12
เหมือนพระสกทาคามี. แม้ในสูตรนี้ พระผู้มีพระภารเจ้า ก็ตรัสสิกขา 3
ไว้คละกัน.
จบอรรถกถาตติยาเสขสูตรที่ 7

8. จตุตถเสขสุตร


ว่าด้วยเสขบุคคล


[528] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิกขาบทที่สำคัญ 150 นี้ ย่อมมาสู่
อุทเทสทุกกึ่งเดือน ฯลฯ นี้แล สิกขา 3 ที่สิกขาบททั้งปวงนั่นรวมกันอยู่
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ที่เป็นผู้ทำให้บริบูรณ์ทั้ง
ในศีล ทั้งในสมาธิ ทั้งในปัญญา ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบท
ทั้งหลาย ภิกษุนั้นกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ ฯลฯ ในปัจจุบันนี้
หรือไม่เป็นพระอรหันต์ เพราะสิ้นสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 เธอเป็นอันตรา
ปรินิพพายี.. อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี
หรือไม่เป็นถึงนั่น เพราะสิ้น
สังโยชน์ 3 ราคะโทสะโมหะเบาบาง เธอเป็นสกทาคามี... หรือไม่เป็นถึง
นั่น เพราะสิ้นสังโยชน์ 3 เธอเป็นเอกพีชี โกลังโกละ สัตตักขัตตุปรมะ.
อย่างนี้แล ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ได้เพียงเอกเทศ ฯลฯ หาเป็น
หมันไม่.
จบจตุตถเสขาสูตรที่ 8